ในปัจจุบัน อินเทอร์เน็ตกลายเป็นส่วนสำคัญในชีวิตประจำวัน การมีสัญญาณ Wi-Fi ที่แรงและเสถียรกลายเป็นสิ่งสำคัญในการใช้ชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน เรียนออนไลน์ หรือเล่นเกม ซึ่งหนึ่งในอุปกรณ์ที่เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้สัญญาณอินเทอร์เน็ตมีความเสถียรก็คือ Router Wi-Fi อุปกรณ์ชิ้นสำคัญที่ทำหน้าที่กระจายสัญญาณอินเทอร์เน็ตไปยังอุปกรณ์ต่างๆ ของคุณ
ดังนั้นการทราบวิธีเลือก Router Wi-Fi ที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพื่อให้คุณสามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตบ้านความเร็วสูงได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ในบทความนี้ AISFibre3 จึงได้รวบรวมวิธีเลือก Router Wi-Fi มาแนะนำกัน
5 วิธีเลือก Router Wi-Fi ให้เน็ตเร็วแรงและเสถียร
การเลือกซื้อ Router Wi-Fi สักเครื่องอาจดูเป็นเรื่องน่าปวดหัวสำหรับหลายๆ คน เพราะมีหลากหลายรุ่น หลากหลายยี่ห้อ และเต็มไปด้วยศัพท์เทคนิคมากมาย แต่ไม่ต้องกังวล! เพียงคุณทำความเข้าใจปัจจัยพื้นฐานไม่กี่ข้อ การตัดสินใจเลือก Router Wi-Fi ที่ตอบโจทย์การใช้งานของคุณและช่วยให้สัญญาณอินเทอร์เน็ตเร็ว แรง เสถียรก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ลองมาดู 5 วิธีเลือก Router ที่เรานำมาฝากกัน
1. ตรวจสอบการเชื่อมต่อที่รองรับ
หลักการสำคัญข้อแรกของวิธีเลือก Router ให้เหมาะสมคือต้องมั่นใจว่า Router ที่คุณเลือกนั้นรองรับประเภทการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตจากผู้ให้บริการของคุณ สำหรับลูกค้า AIS Fibre3 ซึ่งใช้เทคโนโลยี Fiber Optic คุณควรมองหา Router ที่มีพอร์ต WAN (Wide Area Network) เป็นแบบ Gigabit Ethernet (10/100/1000 Mbps) เพื่อให้สามารถรองรับความเร็วอินเทอร์เน็ตระดับ Gigabit ได้อย่างเต็มที่ เนื่องจากการเลือก Router ที่มีพอร์ต WAN ความเร็วต่ำกว่าจะทำให้คุณไม่สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้เต็มสปีดตามแพ็กเกจ
2. เลือก Router Wi-Fi ที่รองรับมาตรฐาน Wi-Fi AC เป็นอย่างน้อย
มาตรฐาน Wi-Fi มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง โดยมาตรฐานที่นิยมใช้ในปัจจุบันและควรเป็นตัวเลือกขั้นต่ำคือ Wi-Fi AC (หรือ Wi-Fi 5) ซึ่งให้ความเร็วและประสิทธิภาพที่ดีกว่ามาตรฐานรุ่นเก่าอย่าง Wi-Fi N (Wi-Fi 4) มาก แต่ถ้าต้องการเทคโนโลยีล่าสุดและประสิทธิภาพสูงสุด แนะนำให้มองหา Router ที่รองรับมาตรฐาน Wi-Fi AX (หรือ Wi-Fi 6/6E) ซึ่งเป็นอีกปัจจัยสำคัญในการเลือก Router เพราะจะช่วยให้รองรับอุปกรณ์เชื่อมต่อได้มากขึ้น ลดความหน่วง และจัดการสัญญาณในสภาพแวดล้อมที่มีอุปกรณ์หนาแน่นได้ดีเยี่ยม
3. เลือกจากคลื่นความถี่
Router Wi-Fi ในปัจจุบันส่วนใหญ่มักเป็นแบบ Dual-Band คือรองรับการปล่อยสัญญาณ 2 คลื่นความถี่ ได้แก่ 2.4 GHz และ 5 GHz คลื่น 2.4 GHz มีข้อดีคือส่งสัญญาณได้ไกลและทะลุทะลวงสิ่งกีดขวางได้ดีกว่า แต่ก็มีช่องสัญญาณน้อยและอาจถูกรบกวนจากอุปกรณ์อื่นได้ง่าย ส่วนคลื่น 5 GHz ให้ความเร็วสูงกว่า ช่องสัญญาณกว้างกว่า และมีการรบกวนน้อยกว่า แต่ระยะส่งสัญญาณจะสั้นกว่า
ดังนั้น อีกหนึ่งวิธีเลือก Routerที่สำคัญคือการเลือก Router แบบ Dual-Band หรือ Tri-Band (เพิ่มคลื่น 5 GHz หรือ 6 GHz อีกหนึ่งชุด) เพื่อให้คุณสามารถเลือกเชื่อมต่อคลื่นความถี่ที่เหมาะสมกับการใช้งานแต่ละประเภทได้
4. พิจารณาสเปคของ Router Wi-Fi
สเปคภายในของ Router ก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน เช่น หน่วยประมวลผล (CPU), หน่วยความจำ (RAM), และจำนวนเสาสัญญาณ หาก Router มี CPU และ RAM ที่สูง จะช่วยให้ประมวลผลข้อมูลจำนวนมากพร้อมกันได้อย่างรวดเร็วและมีเสถียรภาพ ส่วนเสาสัญญาณ (Antennas) ทั้งแบบภายในและภายนอก รวมถึงเทคโนโลยีอย่าง MU-MIMO (Multi-User, Multiple-Input, Multiple-Output) และ Beamforming จะช่วยในการกระจายสัญญาณให้ครอบคลุมและตรงไปยังอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อได้ดียิ่งขึ้น ควรเลือก Router ที่มี LAN Port เป็น Gigabit Ethernet เพื่อการเชื่อมต่อแบบใช้สายที่ความเร็วสูงสุด
5. แบรนด์ต้องมีความน่าเชื่อถือ
ท้ายที่สุดแล้ว อีกหนึ่งวิธีเลือก Routerที่ดีคือเลือกแบรนด์ที่มีความน่าเชื่อถือ มีการรับประกันสินค้าที่เหมาะสม และมีการอัปเดตเฟิร์มแวร์ (Firmware) อย่างสม่ำเสมอ การอัปเดตเฟิร์มแวร์มีความสำคัญมาก เพราะช่วยแก้ไขข้อบกพร่อง เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และอุดช่องโหว่ด้านความปลอดภัย แบรนด์ที่ใส่ใจในการพัฒนาซอฟต์แวร์อย่างต่อเนื่องจะช่วยให้ Router ของคุณทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและปลอดภัยในระยะยาว
วิธีติดตั้ง Router Wi-Fi ให้สามารถรับสัญญาณได้อย่างเต็มที่
เมื่อได้ทราบวิธีเลือก Router Wi-Fi ไปแล้ว อีกปัจจัยหนึ่งที่จะช่วยให้สัญญาณอินเทอร์เน็ตมีความเสถียรก็คือ การติดตั้งในตำแหน่งที่เหมาะสม ซึ่งเป็นปัจจัยที่จะช่วยให้คุณรับสัญญาณได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เพราะไม่ว่า Router ของคุณจะดีแค่ไหน แต่ถ้าติดตั้งผิดที่ผิดทาง สัญญาณก็อาจจะอ่อนและไม่เสถียรได้ ดังนั้น เราไปดูกันดีกว่าว่า วิธีติดตั้ง Router Wi-Fi ที่ถูกต้องเพื่อรับสัญญาณได้อย่างเต็มที่มีอะไรบ้าง
- วาง Router ไว้ในที่โล่งและเป็นศูนย์กลางของบ้าน: พยายามวาง Router ให้อยู่บริเวณกลางบ้านหรือพื้นที่ที่คุณใช้งานอินเทอร์เน็ตบ่อยที่สุด และควรเป็นที่โล่ง ไม่มีสิ่งกีดขวางขนาดใหญ่บังอยู่
- ยก Router ให้สูงจากพื้น: การวาง Router บนชั้นวางหรือโต๊ะที่สูงจากพื้น จะช่วยให้สัญญาณกระจายได้ดีกว่าการวางบนพื้นโดยตรง
- หลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวางและสัญญาณรบกวน: โดยเฉพาะกำแพงคอนกรีตเสริมเหล็ก, ประตูโลหะ, ตู้ปลา, และกระจกเงา สามารถลดความเสถียรของสัญญาณ Wi-Fi ได้ นอกจากนี้ ควรวาง Router ให้ห่างจากอุปกรณ์ที่ปล่อยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า เช่น เตาไมโครเวฟ โทรศัพท์ไร้สาย หรืออุปกรณ์ Bluetooth บางชนิด
- ปรับเสาสัญญาณ (ถ้ามี): หาก Router ของคุณมีเสาสัญญาณภายนอก ลองปรับทิศทางของเสาให้อยู่ในแนวตั้งและแนวนอนสลับกัน เช่น ถ้ามี 2 เสา ให้ตั้ง 1 เสา ชี้ฟ้า อีกเสานอนขนานกับพื้น เพื่อช่วยในการกระจายสัญญาณให้ครอบคลุมทั้งแนวตั้งและแนวนอน
- ตั้งรหัสผ่าน Wi-Fi ที่คาดเดายาก: เพื่อป้องกันบุคคลภายนอกเข้ามาใช้งานโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งอาจส่งผลให้ความเร็วอินเทอร์เน็ตของคุณช้าลง
- พิจารณาใช้ Mesh Wi-Fi สำหรับบ้านขนาดใหญ่หรือมีหลายชั้น: หากบ้านของคุณมีขนาดใหญ่ มีหลายชั้น หรือมีมุมอับสัญญาณเยอะ การใช้ระบบ Mesh Wi-Fi ซึ่งประกอบด้วย Router หลายตัวทำงานร่วมกันเป็นเครือข่ายเดียว จะช่วยขยายสัญญาณให้ครอบคลุมทั่วถึงทั้งบ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สรุปบทความ
และทั้งหมดนี้ก็คือวิธีเลือก Router Wi-Fi และวิธีติดตั้ง Router Wi-Fi ที่ถูกต้องที่ AIS Fibre3 รวบรวมมาแนะนำให้กับคุณ สำหรับคนที่มีปัญหาสัญญาณอินเทอร์เน็ตไม่เสถียร ก็สามารถลองนำวิธีเหล่านี้ไปใช้ได้เลย อย่างไรก็ตาม สำหรับคนที่อยู่อาศัยในบ้านขนาดใหญ่ มีหลายชั้น เราแนะนำว่า การติดตั้ง Mesh Wi-Fi อาจจะเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์มากกว่าและสำหรับคนที่กำลังมองหา Mesh Wi-Fi ที่เร็ว แรง และสัญญาณเสถียรทั่วทั้งบ้าน เราขอแนะนำ SuperMesh WiFiโปรโมชันเน็ตบ้านจาก AIS Fibre3 ที่ให้เน็ตสปีดแรง ครอบคลุมทั่วบ้าน ใช้งานได้ไม่มีสะดุด พร้อมบริการติดตั้งและบริการหลังการขายที่ครบครัน หรือจะเลือกแพ็กเกจเน็ตบ้านพร้อมเน็ตมือถือที่ AIS Fibre3 ก็ได้เช่นกัน สำหรับผู้ที่สนใจติดตั้งเน็ตบ้านหรือเน็ตคอนโดกับ AISFibre3 สามารถติดต่อได้ที่ เบอร์ 02-114-8175 หรือ LINE: @aisfibre24
