เราคือตัวแทนจำหน่ายอินเตอร์เน็ตบ้าน AIS 3BB FIBRE3 อย่างเป็นทางการ

FTTH หรือ Fiber To The Home คืออะไร มีข้อดีข้อเสียอะไรบ้าง

FTTH

ในยุคดิจิทัลที่อินเทอร์เน็ตเปรียบเสมือนปัจจัยที่ห้าของการใช้ชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน เรียนออนไลน์ สตรีมมิงความบันเทิง หรือเล่นเกม การเชื่อมต่อที่รวดเร็วและมีเสถียรภาพจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เทคโนโลยี FTTH หรือ Fiber to the Home ได้เข้ามาตอบโจทย์ความต้องการนี้อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยการส่งมอบอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงผ่านเส้นใยแก้วนำแสงโดยตรงถึงบ้านคุณ 

วันนี้ AISFibre3 จะพาไปทำความรู้จักกับเทคโนโลยี FTTH ให้มากขึ้นว่าคืออะไร มีส่วนประกอบอะไรบ้าง และมีข้อดีข้อเสียอย่างไร เพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจเลือกบริการอินเทอร์เน็ตที่ดีที่สุดสำหรับคุณ

FTTH หรือ Fiber To The Home คืออะไร

FTTH

FTTH (Fiber To The Home) คือ เทคโนโลยีการให้บริการอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ผ่านโครงข่ายใยแก้วนำแสง (Fiber Optic) ที่ลากสายตรงจากชุมสายของผู้ให้บริการ (Central Office) ไปจนถึงภายในบ้านพักอาศัยหรือคอนโดของผู้ใช้งานโดยตรง ซึ่งแตกต่างจากเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตในอดีตอย่าง ADSL ที่ใช้สายทองแดงเป็นตัวกลางในการนำสัญญาณ 

ทำให้ FTTH สามารถรับ-ส่งข้อมูลได้ด้วยความเร็วสูงกว่ามาก มีความหน่วง (Latency) ต่ำ และมีเสถียรภาพสูง เนื่องจากสัญญาณแสงไม่ถูกรบกวนจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าภายนอก จึงมั่นใจได้ว่าจะได้รับประสบการณ์การใช้งานอินเทอร์เน็ตที่เต็มประสิทธิภาพสูงสุด

ข้อดี-ข้อเสียของ FTTH

เทคโนโลยี FTTH ได้รับการยอมรับว่าเป็นมาตรฐานใหม่ของอินเทอร์เน็ตบ้านความเร็วสูง แต่เช่นเดียวกับทุกเทคโนโลยี ย่อมมีทั้งข้อดีและข้อเสียที่ควรทราบเพื่อประกอบการตัดสินใจ การทำความเข้าใจภาพรวมทั้งหมดจะช่วยให้คุณเห็นว่าบริการ FTTH เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์การใช้งานอินเทอร์เน็ตของคุณและครอบครัวมากน้อยเพียงใด และคุ้มค่ากับการลงทุนในระยะยาวหรือไม่

ข้อดีของ FTTH

  • ความเร็วสูงกว่า: สามารถทำความเร็วในการดาวน์โหลดและอัปโหลดได้สูงกว่าเทคโนโลยีสายทองแดง (ADSL) หลายเท่าตัว รองรับแพ็กเกจความเร็วระดับ 1 Gbps ไปจนถึง 2 Gbps ได้อย่างสบาย ๆ
  • ความเสถียรของสัญญาณ: เนื่องจากใช้แสงในการนำสัญญาณ จึงไม่ถูกรบกวนจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า สภาพอากาศ หรือระยะทางที่ไกลจากชุมสาย ทำให้สัญญาณอินเทอร์เน็ตมีความนิ่งและเสถียรภาพสูงมาก
  • ค่าความหน่วงต่ำ (Low Latency): การรับ-ส่งข้อมูลผ่านแสงมีความรวดเร็ว ทำให้มีค่า Ping หรือ Latency ต่ำมาก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคอเกมเมอร์ที่ต้องการการตอบสนองที่รวดเร็วแบบเรียลไทม์ และการใช้งาน Video Conference ที่ราบรื่น
  • รองรับอนาคต: โครงข่าย FTTH มีศักยภาพในการรองรับ Bandwidth ที่สูงมาก ทำให้พร้อมสำหรับเทคโนโลยีในอนาคตที่ต้องการความเร็วอินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้นอีก เช่น วิดีโอความละเอียด 8K, VR/AR หรือ Metaverse
  • ความปลอดภัยของข้อมูล: การลักลอบดักจับสัญญาณจากสายไฟเบอร์ออปติกทำได้ยากกว่าสายทองแดง ทำให้ข้อมูลมีความปลอดภัยสูงขึ้น

ข้อเสียของ FTTH

  • พื้นที่ให้บริการยังไม่ครอบคลุม 100%: แม้จะมีการขยายโครงข่ายอย่างต่อเนื่อง แต่ในบางพื้นที่ห่างไกลหรือพื้นที่ที่ยังพัฒนาไม่เต็มที่ อาจยังไม่มีโครงข่าย FTTH เข้าถึง
  • ค่าใช้จ่ายในการติดตั้งเริ่มต้น: ในบางกรณี ค่าติดตั้งครั้งแรกอาจสูงกว่าอินเทอร์เน็ตประเภทอื่นเล็กน้อย เนื่องจากต้องมีการเดินสายไฟเบอร์ออปติกเข้าสู่ตัวบ้านโดยเฉพาะ
  • ความเปราะบางของสาย: สายไฟเบอร์ออปติกมีความแข็งแรงทนทานต่อสภาพแวดล้อม แต่ตัวสายค่อนข้างเปราะบางต่อการหักงอในองศาที่แคบเกินไป จึงต้องใช้ความระมัดระวังในการติดตั้งและดูแลรักษา

ส่วนประกอบของ FTTH มีอะไรบ้าง

FTTH

การติดตั้งระบบ FTTH นั้นอาศัยอุปกรณ์หลายส่วนทำงานร่วมกันเพื่อให้สามารถส่งสัญญาณอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงจากผู้ให้บริการมายังบ้านของคุณได้อย่างสมบูรณ์ โดยมีองค์ประกอบหลักดังนี้

  • OLT (Optical Line Terminal): คืออุปกรณ์ชุมสายหลักที่ติดตั้งอยู่ที่ฝั่งผู้ให้บริการ ทำหน้าที่เป็นจุดเริ่มต้นในการส่งสัญญาณแสงและจัดการการเชื่อมต่อทั้งหมดในโครงข่ายไปยังผู้ใช้งานปลายทาง
  • สายไฟเบอร์ออปติก (Fiber Optic Cable): เป็นหัวใจสำคัญของเทคโนโลยี FTTH ทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการนำสัญญาณแสงจาก OLT มายังบ้านของผู้ใช้บริการ ซึ่งภายในเป็นเส้นใยแก้วขนาดเล็กที่ให้แสงเดินทางผ่าน
  • Splitter (ตัวแยกสัญญาณ): ทำหน้าที่แยกสัญญาณแสงจากสายไฟเบอร์ออปติกหลักหนึ่งเส้นให้กระจายไปยังบ้านผู้ใช้งานหลาย ๆ หลังในพื้นที่เดียวกัน ช่วยให้ผู้ให้บริการสามารถขยายโครงข่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • กล่องพักสาย (Fiber Optic Distribution Box): เป็นกล่องที่ติดตั้งภายนอกอาคารหรือตามเสาไฟฟ้า ทำหน้าที่เป็นจุดเชื่อมต่อและกระจายสายไฟเบอร์ออปติกเข้าสู่บ้านแต่ละหลัง
  • ONU (Optical Network Unit) หรือ ONT (Optical Network Terminal): คืออุปกรณ์แปลงสัญญาณที่ติดตั้งภายในบ้านของผู้ใช้งาน ทำหน้าที่แปลงสัญญาณแสงที่มาจากสายไฟเบอร์ออปติกให้กลายเป็นสัญญาณไฟฟ้า เพื่อเชื่อมต่อกับอุปกรณ์กระจายสัญญาณอินเทอร์เน็ตอย่าง Router ต่อไป

สายเคเบิลไฟเบอร์ออปติกสำหรับ FTTH มีกี่ประเภท

สายไฟเบอร์ออปติกที่ใช้ในระบบ FTTH นั้น โดยหลักแล้วจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ ตามลักษณะการเดินทางของแสงภายในแกนของสาย ซึ่งแต่ละประเภทก็มีคุณสมบัติที่แตกต่างกันไป ดังนี้

Single-mode Fiber (SMF)

Single-mode Fiber (SMF) เป็นสายไฟเบอร์ออปติกที่มีขนาดแกนกลาง (Core) เล็กมาก (ประมาณ 9 ไมครอน) ทำให้แสงเดินทางเป็นแนวตรงเพียงโหมดเดียว สัญญาณจึงมีการกระจายตัวน้อยมาก ส่งผลให้สามารถส่งข้อมูลได้ในระยะทางไกล ๆ ด้วยความเร็วสูงและมี Bandwidth ที่กว้าง จึงเป็นประเภทที่นิยมใช้มากที่สุดในโครงข่าย FTTH สำหรับการลากสายจากชุมสายมายังผู้ใช้งาน

Multi-mode Fiber (MMF)

Multi-mode Fiber (MMF) มีขนาดแกนกลางใหญ่กว่า (ประมาณ 50 หรือ 62.5 ไมครอน) ทำให้แสงสามารถเดินทางได้หลายโหมดพร้อมกันในเส้นทางที่แตกต่างกัน จึงเหมาะกับการส่งข้อมูลในระยะทางสั้น ๆ เช่น ภายในอาคารสำนักงาน หรือในศูนย์ข้อมูล (Data Center) ไม่นิยมใช้ลากสายเป็นระยะทางไกล ๆ ในโครงข่าย FTTH เนื่องจากมีข้อจำกัดด้านระยะทางและ Bandwidth ที่น้อยกว่าแบบ Single-mode

วิธีเลือกสายเคเบิลไฟเบอร์ออปติกให้เหมาะกับการใช้งาน

FTTH

โดยทั่วไปแล้ว ผู้ใช้งานตามบ้านไม่จำเป็นต้องเลือกประเภทของสายไฟเบอร์ออปติกเอง เนื่องจากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตอย่าง AISFibre3 จะเป็นผู้ดำเนินการออกแบบและติดตั้งโครงข่าย FTTH ด้วยการใช้สายประเภท Single-mode Fiber ที่เหมาะสมกับการส่งสัญญาณระยะไกลมาให้ถึงบ้านอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม หากมีความจำเป็นต้องเดินสายภายในอาคารเพิ่มเติม อาจพิจารณาปัจจัยเหล่านี้ประกอบ

  • ระยะทางในการติดตั้ง: หากเป็นการเดินสายในระยะทางไกลข้ามอาคาร หรือระหว่างชั้นที่ห่างกันมาก ควรเลือกใช้ Single-mode Fiber เพื่อคุณภาพสัญญาณที่ดีที่สุด แต่หากเป็นระยะทางสั้น ๆ ภายในห้องหรือชั้นเดียวกัน Multi-mode Fiber ก็อาจเพียงพอและมีราคาถูกกว่า
  • ความเร็วที่ต้องการ: สำหรับการใช้งานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงระดับ Gigabit ในปัจจุบัน Single-mode Fiber ถือเป็นมาตรฐานที่รองรับได้อย่างไม่มีปัญหา
  • งบประมาณ: โดยทั่วไปสายแบบ Multi-mode และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องจะมีราคาถูกกว่า แต่ก็มีข้อจำกัดด้านระยะทางและความเร็วอย่างที่กล่าวไปข้างต้น

สรุปบทความ

FTTH หรือ Fiber To The Home คือเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตบ้านที่ดีที่สุดในปัจจุบัน ด้วยการส่งสัญญาณผ่านเส้นใยแก้วนำแสงโดยตรงถึงบ้าน ทำให้ได้ความเร็วที่เหนือกว่า ความเสถียรที่มากกว่า และค่าความหน่วงที่ต่ำ เหมาะสมกับการใช้งานทุกรูปแบบตั้งแต่การทำงาน เรียนออนไลน์ ไปจนถึงความบันเทิงเต็มรูปแบบและการเล่นเกมที่ต้องการการตอบสนองฉับไว แม้จะมีข้อจำกัดอยู่บ้างในเรื่องพื้นที่ให้บริการและค่าติดตั้งเริ่มต้น แต่เมื่อพิจารณาถึงประสิทธิภาพและศักยภาพในการรองรับเทคโนโลยีในระยะยาวแล้ว การเลือกใช้อินเทอร์เน็ต FTTH ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าสำหรับทุกครัวเรือนในยุคดิจิทัลสำหรับท่านที่สนใจสัมผัสประสบการณ์อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงเต็มประสิทธิภาพ สามารถตรวจสอบพื้นที่ให้บริการและเลือกแพ็กเกจสุดคุ้มจาก AISFibre3 ผู้ให้บริการโครงข่าย FTTH คุณภาพที่พร้อมส่งมอบความเร็ว แรง และเสถียรให้คุณได้แล้ววันนี้